วันที่ 20 มกราคม ปี 2021 ประธานาธิบดี Trump จะกลายเป็นนาย Trump นักธุรกิจคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขายังคงมีงานอีกหลายอย่างที่ทำให้ยุ่งจนหัวหมุน สิ่งแรกสุดที่ตัวเขาต้องลงมือทำก็คือ คิดวิธีหาเงินมาชำระหนี้สินกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดชำระคืนตั้งแต่ปี 2021 ไปจนถึงปี 2025
หวังว่าจะมีข้อตกลงธุรกิจมูลค่ามหาศาลหลายต่อหลายข้อตกลง ที่จะช่วยให้เขาสามารถดึงเงินสดจากสินทรัพย์มูลค่าราว 3.7 พันล้านเหรียญของเขาออกมาใช้หมุนเวียนได้- 2021 -
555 California Street | San Francisco
เจ้าหนี้: ไม่ระบุแน่ชัด • หนี้สิน: ประมาณ 162 ล้านเหรียญ
Trump ถือกรรมสิทธิ์ 30% ของอาคารใน Bay Area แห่งนี้ร่วมกับบริษัทจดทะเบียนอย่าง Vornado Realty Trust ซึ่งถือหุ้น 70% และมีอำนาจควบคุมโครงการนี้ ในการประชุมรายงานผลประกอบการในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Steven Roth ซีอีโอ Vornado เสนอแนะให้หุ้นส่วนของเขาเปลี่ยนเงินกู้ก้อนปัจจุบันที่ 541 ล้านเหรียญ มาเป็นเงินกู้ก้อนใหม่มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญ การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้ภาระหนี้สินในระยะยาวของ Trump เพิ่มขึ้น หากแต่ในทางกลับกันก็น่าจะเปิดโอกาสให้เขาสามารถแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสดล่วงหน้ากว่า 250 ล้านเหรียญได้ ซึ่งนั่นจะช่วยให้เขามีเวลาพักหายใจ และชำระคืนเงินกู้ก้อนอื่นๆ ได้- 2022 -
Trump Tower | New York
เจ้าหนี้: Ladder Capital • หนี้สิน: 100 ล้านเหรียญ
Trump ชำระคืนเฉพาะดอกเบี้ยนับตั้งแต่ที่เขากู้ยืมเงินก้อนนี้มาในปี 2012 งบดุล 100 ล้านเหรียญจะครบกำหนดชำระคืนในวันที่ 6 กันยายน 20221290 Avenue of the Americas | New York
เจ้าหนี้: ไม่ระบุแน่ชัด • หนี้สิน: 285 ล้านเหรียญ
Trump ในฐานะหุ้นส่วนกับ Vornado ยังคงถือกรรมสิทธิ์ 30% ของตึกระฟ้าใน Sixth Avenue นี้ Vornado กำลังพิจารณาดูว่าจะปรับโครงสร้างหนี้ หรือขายสินทรัพย์ทั้งสองรายการที่ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับ Trump นี้ดี หากแต่สภาวะตลาดในปัจจุบันทำให้สิ่งต่างๆ ยุ่งยากมากยิ่งขึ้น ซีอีโอ Vornado ยอมรับเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวอาจจะไม่ได้มีราคาขายสูงเท่าที่ตัวเขาเคยคาดหวังไว้แต่แรก- 2023 -
Trump National Doral | Miami
เจ้าหนี้: Deutsche Bank • หนี้สิน: ประมาณ 125 ล้านเหรียญ
Deutsche Bank ให้สินเชื่อ 125 ล้านเหรียญกับ Trump ใน Miami นอกเหนือจากวงเงินกู้ราว 170 ล้านเหรียญใน Washington, D.C. และ 45 ล้านเหรียญใน Chicago อสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 รายการต่างก็ประสบปัญหา ไม่แปลกใจเลยที่มีรายงานว่า ธนาคารสัญชาติเยอรมันแห่งนี้กำลังจะทิ้งทุ่น Trump เสียแล้ว- 2024 -
Trump International Hotel | Washington, D.C.
เจ้าหนี้: Deutsche Bank • หนี้สิน: ประมาณ 170 ล้านเหรียญ
ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 Trump ชอบคุยโวเรื่องที่เขาได้ทำสัญญาเช่าอาคาร Old Post Office ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของว่า “บางทีผมอาจจะเป็นสุดยอดนักเจรจาต่อรองก็ได้ ใครจะรู้” อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี Obama ซึ่งจรดปากกาเซ็นสัญญาจะเป็นผู้ชนะตัวจริงเหนือ Trump เพราะท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลได้ประกันผลตอบแทนค่าเช่าที่ 3 ล้านเหรียญต่อปีจากการทำสัญญาเช่ารายปี ส่วน Trump กลับจมอยู่กับโรงแรมซึ่งดูเหมือนว่าจะมีแต่เข้าเนื้อTrump International Hotel & Tower | Chicago
เจ้าหนี้: Deutsche Bank • หนี้สิน: ประมาณ 45 ล้านเหรียญ
ผลกำไรของโรงแรมของท่านประธานาธิบดีใน Chicago แห่งนี้ลดลงอย่างฮวบฮาบหลังจากที่ Trump ก้าวเข้าสู่แวดวงการเมืองตามข้อมูลจากเอกสารที่ Washington Post รวบรวมได้ โรงแรมมีรายได้จากการดำเนินงานสุทธิลดลงจาก 16.6 ล้านเหรียญในปี 2015 เหลือเพียง 1.8 ล้านเหรียญในปี 2018Trump Plaza | New York
เจ้าหนี้: Ladder Capital • หนี้สิน: 13 ล้านเหรียญ
ท่านประธานาธิบดีบริหารพื้นที่ค้าปลีก อู่ซ่อมรถ และอาคารที่สร้างด้วยหินทราย 2 หลังใกล้กับ Third Avenue ใน Manhattan ซึ่งเขาปล่อยเช่าให้กับผู้เช่าหลายราย ซึ่งรวมถึงผู้ร่วมรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของตัวเขาเองด้วย- 2025 -
40 Wall Street | New York
เจ้าหนี้: Ladder Capital • หนี้สิน: 138 ล้านเหรียญ
2 สัปดาห์หลังจากที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2016 Trump ได้กู้เงิน 160 ล้านเหรียญโดยใช้อาคารใน Financial District ใน Manhattan ของเขาเป็นหลักประกัน อาคารนี้ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าที่คาด หากแต่อสังหาริมทรัพย์รายการนี้ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 2 เท่าของมูลค่าหนี้สิน ดังนั้น เจ้าหนี้ของ Trump กลุ่มนี้จึงน่าจะปลอดภัย และปลอดภัยมากกว่า Deutsche Bank เป็นแน่ อ่านเพิ่มเติม:คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine