<h2>ภายหลังการเสียชีวิตด้วยวัย 68 ปี ของ Walter Kwok มหาเศรษฐีเจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์แห่งฮ่องกงเมื่อเดือนตุลาคม Geoffrey และ Jonathan ลูกชายทั้งสองคนของเขารับมรดกจากพ่อซึ่งรวมถึงหุ้นในบริษัท Sun Hung Kai Properties ที่นำพาให้พวกเขามาอยู่ในอันดับที่ 12 ประจำปีนี้</h2>
ขณะที่ Kwong Siu-hing คุณย่าวัย 89 ปีของพวกเขามารดาของ Walter และภรรยาม่ายของ Kwok Tak-seng ผู้ร่วมก่อตั้ง Sun Hung Kai ได้เข้าทำเนียบมาเป็นครั้งแรกในลำดับที่ 5 สองพี่น้องได้รับมรดกเป็นหุ้นร้อยละ 7.3 ในบริษัท Sun Hung Kai ซึ่งเป็นธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง เมื่อวัดด้วยมูลค่าตามราคาตลาด (market capitalization) Geoffrey พี่ชายคนโตวัย 33 ปี ดำรงตำแหน่งกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารของบริษัท (nonexecutive director) ข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทระบุว่า Kwong ครอบครองหุ้น Sun Hung Kai ร้อยละ 27 ผ่านบริษัททรัสต์หลายแห่ง

<figure><img class="wp-image-7725 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Kwong-Siu-hing.jpg" alt="" width="638" height="481" /><figcaption> Kwong Siu-hing วัย 89 ปี มารดาของ Walter Kwok ติดอันดับ 5 ในการจัดอันดับมหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2019</figcaption></figure>

การผงาดขึ้นมาของ Geoffrey เท่ากับเป็นการยุติข้อพิพาทระหว่างพ่อและอา 2 คนของเขา คือ Thomas และ Raymond ที่ดำเนินมานานร่วมสิบปีจากความขัดแย้งในเรื่องการบริหารจัดการ Sun Hung Kai และสินทรัพย์ของครอบครัว Geoffrey เริ่มเข้ามาทำงานที่ Sun Hung Kai เมื่อปี 2008 โดยรับตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัทย่อยที่ทำหน้าที่บริหารโรงแรมและเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ของกลุ่มบริษัททั้งในฮ่องกงและจีน ลูกพี่ลูกน้อง 3 คนของเขายังมีรายชื่อในคณะกรรมการบริษัทในฐานะกรรมการบริหารด้วย

Walter Kwok เกิดเมื่อปี 1950 เป็นลูกชายคนโตของผู้ร่วมก่อตั้ง Sun Hung Kai เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตในปี 1990 เขาจึงรับตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Thomas และ Raymond น้องชายของเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานกรรมการร่วม ทั้งสามคนช่วยกันบริหารบริษัทจนเติบโตอย่างรวดเร็วและได้สร้างอาคารระฟ้าที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของฮ่องกงหลายแห่ง

แม้ Walter จะมีชื่อเสียงในด้านการใช้กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก แต่ผู้คนจดจำเขาได้ดีที่สุดจากเหตุลักพาตัวในปี 1997 โดย Cheung Tzekeung มาเฟียท้องถิ่นซึ่งจับตัวเขาไปขังไว้ในลังไม้เป็นเวลา 1 สัปดาห์จนกระทั่งมีการจ่ายเงินค่าไถ่ราว 77 ล้านเหรียญ หลังจากนั้น Walter ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า

<figure><img class="wp-image-7724 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/22258.jpg" alt="" width="800" height="399" /><figcaption> Thomas และ Raymond Kwok สองน้องชายของ Water Kwok</figcaption></figure>

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและน้องชายทั้งสองมีอันต้องร้าวฉาน Thomas และ Raymond ขับ Walter ออกจากบริษัทในปี 2008 โดยอ้างว่าอาการป่วยทำให้เขาไม่อยู่กับร่องกับรอยและไม่เหมาะจะเป็นผู้นำบริษัท ในปีเดียวกันนั้น คณะกรรมการของ Sun Hung Kai มีมติให้แม่ของเขาทำหน้าที่ประธานกรรมการแทน พร้อมทั้งแต่งตั้ง Thomas และ Raymond เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

Walter ดำเนินคดีทางกฎหมายกับ Thomas และ Raymond เป็นการตอบโต้ ในที่สุดทั้งสามสามารถตกลงกันได้ในคดีหมิ่นประมาทที่ Walter เป็นผู้ยื่นฟ้องเมื่อปี 2008 แต่ก็หลังจากที่ทางการฮ่องกงดำเนินการสอบสวนการทุจริตติดสินบนกับน้องชายทั้งสองของ Walter ในปี 2012 Thomas ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงฐานให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐ ในปี 2014 ก็ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี และขณะนี้ยังคงรับโทษอยู่ ส่วน Raymond ได้รับการตัดสินว่าไม่มีความผิด
<ul>
 	<li>คลิกอ่าน: <a href="https://forbesthailand.com/world/%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1-10-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8.html">10 อันดับ มหาเศรษฐีฮ่องกง ที่มั่งคั่งที่สุดประจำปี 2019</a></li>
</ul>
ในปี 2017 Walter ล้มเหลวในการฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของครอบครัวมูลค่า 5 พันล้านเหรียญ เดือนพฤษภาคม ปี 2018 เขาระงับการยื่นอุทธรณ์และหันไปประนีประนอมยอมความกับน้องชาย แต่แล้วในเดือนสิงหาคม เขามีอาการหัวใจวายและเสียชีวิตในอีกไม่ถึง 2 เดือนต่อมา

นอกจากลูกชายแล้ว Walter ยังมี Wendy ภรรยาและ Lesley ลูกสาวที่ยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้ Geoffrey และ Jonathan เป็นผู้ดูแลกิจการ Empire Group Holdings บริษัทอสังหาริมทรัพย์เอกชนที่พ่อของพวกเขาสร้างขึ้นในปี 2014

เรื่องโดย– Joyce Huang

<hr />

<a href="https://bit.ly/2GB6P6G">คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม "ทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2019" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2GB6P6G"><img class="alignnone size-full wp-image-7213" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/COVER-71-350.jpg" alt="" width="350" height="460" /></a>

สานต่อธุรกิจหลังการจากไปของ Walter Kwok เศรษฐีอสังหาฯ ฮ่องกง

<h2>Walter Kwok เจ้าพ่ออสังหาฯ อดีตประธานกรรมการบริษัท Sun Hung Kai Properties เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2018 ด้วยวัย 68 ปี Kwok พักรักษาตัวในโรงพยาบาลมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมหลังประสบภาวะเส้นโลหิตในสมองแตก</h2>
“เรามีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องประกาศถึงการเสียชีวิตของ Walter Kwok ผู้จากโลกนี้ไปอย่างสงบในเช้าวันที่ 20 ตุลาคม 2018 ท่ามกลางครอบครัวอันเป็นที่รัก” Wendy Kwok ผู้เป็นภรรยา กล่าวในแถลงการณ์สาธารณะ “เราขอแสดงความขอบคุณจากใจจริงต่อทีมแพทย์และพยาบาลที่คอยสนับสนุนการรักษา รวมไปถึงญาติพี่น้อง เพื่อน และผู้ร่วมทำธุรกิจทุกคนที่ให้ความรักและเอาใจใส่มาตลอด” เธอเสริม

Walter มีภรรยาและลูกทั้งหมด 3 คน เขาเคยนั่งตำแหน่งประธานกรรมการของ Sun Hung Kai Properties บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกงนานเกือบ 2 ทศวรรษ โดยเขากับน้องชายอีก 2 คนคือ Thomas และ Raymond เป็นผู้รับสืบทอดควบคุมบริษัทจากบิดาผู้เสียชีวิตในปี 1990

Walter เกิดในฮ่องกงเมื่อปี 1950 และบินไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักร โดยได้รับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมโยธาจาก Imperial College of Science and Technology, University of London

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/fcd9db991303f18968e1a7e96a5a413d.jpg" alt="" width="638" height="424" data-cke-saved-src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/fcd9db991303f18968e1a7e96a5a413d.jpg" /><figcaption> อาคาร International Commerce Center ตึกที่สูงที่สุดในฮ่องกง พัฒนาโดย Sun Hung Kai</figcaption></figure>


ด้านบริษัท Sun Hung Kai ก่อตั้งในปี 1963 และเป็นบริษัทที่ก่อสร้างอาคารจำนวนมากซึ่งมีอิทธิพลต่อทัศนียภาพเมืองของฮ่องกง หนึ่งในนั้นคือตึก International Commerce Center ความสูง 118 ชั้น สูงที่สุดของฮ่องกง

ตระกูล Kwok นับเป็นหนึ่งในครอบครัวที่รวยที่สุดของทวีปเอเชีย ด้วยความมั่งคั่งรวมกันกว่า 2.11 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามการรายงานของ FORBES ส่วนสินทรัพย์ของ Walter เพียงผู้เดียวได้รับการประเมินว่ามีกว่า 6.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งให้เขาเป็นเศรษฐีอันดับ 12 ของเกาะฮ่องกง
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/world-detail.php?did=2147" data-cke-saved-href="http://forbesthailand.com/world-detail.php?did=2147">อ่านเพิ่มเติม: 15 ตระกูลมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย ปี 2017</a></li>
</ul>
Walter ถูกขับออกจากตำแหน่งประธานกรรมการของ Sun Hung Kai ในปี 2008 หลังจากความไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นระหว่างเขากับน้องชายทั้งสองคนในประเด็นการบริหารบริษัท

เหล่าพี่น้องตระกูล Kwok เริ่มมีปัญหาเรื่องทิศทางบริษัทมาตั้งแต่หลังจากที่ Walter ถูกลักพาตัวไปในปี 1997 แก๊งอาชญากรที่มีชื่อเล่นว่า “Big Spender” จับเขาไปและเรียกค่าไถ่ตัวถึง 600 ล้านเหรียญฮ่องกงซึ่งตระกูล Kwok ยอมจ่ายเพื่อให้ Walter เป็นอิสระ แก๊งดังกล่าวถูกจับที่ประเทศจีนในเวลาต่อมาและถูกประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์เรียกค่าไถ่นี้ถูกมองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ Walter ต้องทนทุกข์กับโรคซึมเศร้าหลังจากนั้น

ในที่สุด ครอบครัวสามารถตกลงกันได้ในปี 2014 เพื่อจัดสรรหุ้นอย่างเท่าเทียมกันใน Sun Hung Kai โดยที่ Thomas กับ Raymond จะเป็นประธานกรรมการร่วมกัน และ Walter ยอมถอยออกจากบริษัทเพื่อมองหาโอกาสอื่นๆ

หลายปีที่ผ่านมา Walter ดำเนินกิจการอสังหาฯ ส่วนตัวในชื่อ Empire Group Holdings ซึ่งพัฒนาโครงการจำนวนมากผ่านการร่วมเป็นพันธมิตรกับดีเวลอปเปอร์รายอื่น

&nbsp;

แปลและเรียบเรียงจาก Hong Kong Billionaire Walter Kwok Dies At Age 68 โดย Robert Olsen เว็บไซต์ forbes.com

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events