กลยุทธ์การเดินหมากธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ไทยสามารถผงาดขึ้นแท่นศูนย์กลางการค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคควบคู่การปั้นธุรกิจไลฟ์สไตล์ส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมปรับสมดุลพอร์ตอสังหาฯ สะกดนักลงทุนในตลาดหุ้น
เมื่อยุคทองสัมปทานสุราสิ้นมนต์ขลังกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เจ้าพ่อน้ำเมาต้องจัดทัพธุรกิจใหม่ในอาณาจักร ไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือ ทีซีซี กรุ๊ป ซึ่งแบ่งกลุ่มเป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้า ธุรกิจประกันและการเงิน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร
ปณต สิริวัฒนภักดี เน้นการกว้านซื้อที่ดินใหม่ และพัฒนาเพื่อการเช่าจากที่ดินเดิม
“ทีซีซี แลนด์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายกลุ่ม ทั้งโรงแรมในประเทศและต่างประเทศศูนย์การค้า 5 แบรนด์ ได้แก่ เอเชียทีค พันธุ์ทิพย์ เกตเวย์ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟสยามสแควร์ และบ็อกซ์สเปซ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย” โสมพัฒน์เริ่มต้นเล่าถึงธุรกิจภายใต้การบริหารโดยมีวัลลภาร่วมเคียงข้างให้ข้อมูล
ตัวเลขผลประกอบการในปี 2560 บริษัทมีรายได้รวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท EBITDA จำนวน 6.4 พันล้านบาท ภายใต้มูลค่าโครงการรวม 1.4 แสนล้านบาท นำโดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมมีรายได้คิดเป็นสัดส่วน 60% ส่วนที่เหลืออีก 40% เป็นธุรกิจปล่อยเช่าอื่นๆ
“ตลาดต่อยอดเป็นตลาดกลางการค้าส่งแห่งแรกของประเทศและใหญ่ที่สุดในภูมิภาค นอกจากภาคกลาง เรายังวางแผนขยายทั่วประเทศ ทำให้เกิดการค้ารอบชายแดนทั้งหมด...” โสมพัฒน์กล่าวถึงแผนการลงทุนใหญ่งบลงทุนเฟสแรกกว่า 6 พันล้านบาท
“ต่อยอด” เชื่อมโอกาสส่งออก
“ก่อนเริ่มโครงการเราโชว์ไอเดียกับภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนหลายแห่ง ซึ่งทุกฝ่ายพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ โดยไอเดียของเราเกิดขึ้นจากโมเดลตลาดค้าส่งใหญ่ของจีนที่ Yiwu…ยุทธศาสตร์ของไทยเป็นแหลมทอง ประกอบกับเรามีที่ดินทำเลทองสามารถเชื่อมต่อไปยังภาคต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงนโยบายภาครัฐที่เน้นการค้าอาเซียน ทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจเริ่มต้นโครงการ” โสมพัฒน์กล่าว
โครงการตลาดกลางการค้าแห่งภูมิภาคอาเซียนในชื่อ AEC Trade Center จะเปิดตัวบนพื้นที่ 160 ไร่ ที่ ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่การค้ากว่า 300,000 ตารางเมตรและสินค้ากว่า 1 ล้าน SKUs ประกอบด้วย 10 อาคาร เช่น สินค้าแฟชั่นเครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับ เครื่องเขียน อุปกรณ์กีฬา เครื่องสำอาง สปา ฯลฯ รวมถึงศูนย์จัดแสดงสินค้าขนาด 5,000 ตารางเมตร และโกดังสินค้าให้เช่า 500 ห้อง พื้นที่กว่า 13,000 ตารางเมตร
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมงบลงทุน 4 หมื่นล้านบาทเดินหน้าขยายตลาดต่อยอดให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคภายใน 3-5 ปี โดยเน้นทำเลติดการค้าชายแดนและเขตเศรษฐกิจพิเศษขนาดที่ดินเฉลี่ย 100 ไร่ขึ้นไป เช่น จ.เชียงใหม่ในภาคเหนือ ชลบุรีในภาคตะวันออก อุดรธานีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตากในภาคตะวันตก และเพชรบุรีในภาคใต้
เปิดฉากสู่มหาชนในตลาดทุน
นอกจากตลาดต่อยอดแล้ว กลุ่มโรงแรมและค้าปลีก บริษัทก็มีแผนสร้างโรงแรมเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เช่น โรงแรมขนาดใหญ่ริมแม่น้ำ แมริออท เอเชียทีค รีสอร์ท ที่พัทยา และกระบี่
ด้านธุรกิจค้าปลีก เตรียมการขยายศูนย์การค้าในลักษณะเดียวกับ เอเชียทีค ไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น พัทยา เชียงใหม่ และการพัฒนาศูนย์การค้าโมเดล เกตเวย์ เพิ่มในทำเลบางซื่อ รวมถึงปรับคอนเซปท์ให้ พันธุ์ทิพย์ เป็น E-Sport Arena แห่งแรกในเอเชีย ทั้งสาขาประตูน้ำและเชียงใหม่ พร้อมนำโมเดล ตลาดตะวันนา เปิดตลาดย่านบางพลีและพระราม 2 อีกด้วย
ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ ด้วยการนำอาณาจักร 1.4 แสนล้านบาทแปรสภาพเป็นมหาชน
“คุณพ่อมองถึงรูปแบบการจัดการที่ยั่งยืนว่าการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ ทำให้องค์กรพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งระบบการทำงานตามบริษัทมหาชนและแผนการลงทุนที่แตกต่างกัน ถ้าเป็นธุรกิจครอบครัวเราสามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงตัวเลขผลประกอบการและระยะเวลา ซึ่งท้ายสุดรายได้อาจจะมาพร้อมกันหมด แต่ถ้าเป็นบริษัทในตลาดฯ เราต้องวางแผนบาลานซ์การเติบโต เงินปันผล และการสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนเห็นอย่างต่อเนื่อง” วัลลภากล่าว
นอกจากนี้ โสมพัฒน์และวัลลภายังให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ชัดเจนในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นโครงการระยะยาว ซึ่งบริษัทยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอการพัฒนาจำนวนมากกว่า 90 โครงการ ด้วยความเชื่อมั่นในโอกาสและศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ไทยที่จะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
ภาพ: ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี
อ่านเพิ่มเติม: โลกของเจริญ: เปิดแผนที่ 18 อสังหาฯ ใจกลางกรุงของเจ้าสัวไทยเบฟฯ
คลิกอ่าน "โสมพัฒน์-วัลลภา พลิกเกมอสังหาฯ ทีซีซี แลนด์ แสนล้าน" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ มีนาคม 2561 ในรูปแบบ e-Magazine