เอรียา จุฑานุกาล พลังมุ่งมั่นที่ผลักดันสู่ “มือหนึ่ง” โลก - Forbes Thailand

เอรียา จุฑานุกาล พลังมุ่งมั่นที่ผลักดันสู่ “มือหนึ่ง” โลก

ความพ่ายแพ้ในการแข่งขันที่ เอรียา จุฑานุกาล ต้องเผชิญมาตลอดในช่วงเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักกอล์ฟ ไม่สามารถกัดกร่อนพลังความมุ่งมั่นในตัวเธอลงได้ ตรงกันข้าม เอรียากลับนำสิ่งนั้นมาแปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน พร้อมสู้ศึกอย่างไม่หวั่นไหวในทุกสนาม

Forbes Thailand ฉบับปฐมฤกษ์ เดือนมิถุนายน ปี 2556 สัมภาษณ์ เอรียา เมื่อครั้งอายุ 17 ปี ที่ขณะนั้นหมายมาดจะก้าวขึ้นไปติด 1 ใน 10 นักกอล์ฟหญิงอาชีพระดับโลกให้ได้สักวันหนึ่ง แม้ความฝันจะยังดูห่างไกลก็ตาม หลังผ่านการเคี่ยวกรำอย่างเข้มข้น เอรียาสามารถสร้างผลงานได้ดีขึ้นและเปล่งประกายอย่างโดดเด่นในปี 2559 ด้วยการคว้าแชมป์ LPGA ซึ่งเป็นการแข่งขันกอล์ฟหญิงถึง 5 รายการ ผ่านไป 4 ปี เราได้พูดคุยกับเอรียาอีกครั้ง คราวนี้ในวัย 21 ปี เอรียาเพิ่งแข่งขันรายการ Manulife LPGA Classic และคว้าถ้วยรางวัลมาครองได้ในที่สุด ส่งให้โปรกอล์ฟสาวชาวไทยขึ้นเป็นนักกอล์ฟหญิงที่มีคะแนนรวมเป็นอันดับ 1 ของโลก จากการจัดอันดับของ Rolex Rankings ณ วันที่ 12 มิถุนายน สร้างบันทึกหน้าใหม่ให้วงการกีฬาไทย ก่อนที่อีก 2 สัปดาห์ต่อมา So Yeon Ryu นักกอล์ฟจากเกาหลีใต้จะผลัดขึ้นมาเป็นอันดับ 1 “…เมไม่เคยเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผ่านมาหรือเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร ปีที่แล้วเป็นปีแห่งความทรงจำที่ดีมากๆ และปีนี้ก็ดีในแบบของมัน เมไม่ได้ใช้ชีวิตโดยการเปรียบเทียบ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นและทำทุกวันให้ดีที่สุด”

วงสวิงแห่งความสุข

เอรียา และ โมรียา พี่สาวที่อายุห่างกันเกือบ 1 ปีครึ่ง คลุกคลีกับกีฬากอล์ฟมาตั้งแต่อายุ 5 ปีครึ่งและ 7 ปีตามลำดับ เมื่อเห็นแววว่าทั้งคู่ชอบเล่นกอล์ฟ สมบูรณ์ จุฑานุกาล และ นฤมล ติวัฒนาสุข ผู้เป็นพ่อและแม่จึงสนับสนุนเต็มที่ สมบูรณ์ที่เปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟ ถึงขั้นขายบ้าน ขายรถหรู และทุ่มเงินรวมแล้วร่วม 20 ล้านบาท เสาะหาโปรกอล์ฟฝีมือดีมาช่วยสอนลูกๆ แม้ฝีมือการเล่นในช่วงแรกจะปรากฏผลเป็นอันดับรั้งท้ายอยู่หลายครั้ง แต่เอรียาไม่เคยหมดศรัทธาในตัวเอง และยึดคติว่า “ทุกอย่างเป็นไปได้” ถ้าฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถผ่านรอบคัดตัวเข้าไปเล่นในรายการ Junior World ที่สหรัฐอเมริกา และได้อันดับ 2 เมื่ออายุ 8 ปี ก่อนตระเวนแข่งขันกอล์ฟในหลายประเทศ เทิร์นโปรในปี 2555 ก่อนจะเข้าร่วมกอล์ฟ Ladies European Tour ในปีถัดมา ซึ่งเธอคว้าชัย 2 รายการ และเข้าร่วมกอล์ฟ LPGA Tour ในปี 2558
โมรียาและเอรียา สองพี่น้องคอยให้กำลังใจกันและกัน
การทุ่มเทให้การฝึกซ้อมและการมีวินัยอย่างเคร่งครัดเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยกรุยทางแห่งความสำเร็จ เช่นทุกวันนี้ที่เอรียาคือนักกอล์ฟหญิงอันดับต้นๆ ของโลก ขณะที่โมรียาอยู่อันดับที่ 33 (ณ วันที่ 26 มิถุนายน) จากความสำเร็จที่สั่งสมย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะกลายเป็นความกดดันที่เหล่านักกีฬาต้องหาทางรับมือ ซึ่งเอรียาได้เปลี่ยนความกดดันนั้นเป็นกำลังใจและให้ความสำคัญกับสิ่งที่ควบคุมได้ในสนามมากกว่าสิ่งที่จะส่งผลต่อสมาธิ การเทิร์นโปรเป็นนักกอล์ฟอาชีพยังสร้างรายได้ให้สองพี่น้องที่ในแวดวงกอล์ฟเรียกขานกันว่า “Thai Sisters” เป็นจำนวนเงินรวมแล้วหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ LPGA ระบุว่านับถึงกลางเดือนมิถุนายนปีนี้ เอรียารับเงินรางวัลจากการแข่งขัน LPGA รายการต่างๆ ไปแล้วราว 4 ล้านเหรียญ (ราว 134 ล้านบาท) เฉพาะปี 2559 เพียงปีเดียว เอรียาทำเงินได้ราว 2.55 ล้านเหรียญ (ราว 85.61 ล้านบาท) ด้านโมรียาคว้าเงินรางวัลนับถึงขณะนี้ไปแล้วราว 1.7 ล้านเหรียญ (ราว 57 ล้านบาท) ที่กล่าวมายังไม่รวมเงินรางวัลอื่นๆ และเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์รายใหญ่ของไทย อาทิ SCG เบทาโกร ฯลฯ  

ล้มแล้วลุก

“กว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้ เมแค่เหนื่อยมาก่อน” เอรียาบอก แน่นอนว่าความเหนื่อยของเธอที่ผ่านมานั้น หลายครั้งต้องเจือด้วยน้ำตาของความเจ็บปวดและความผิดหวัง ย้อนไปในปี 2556 เอรียาต้องพบฝันร้ายในรายการ Honda LPGA Thailand ที่พลาดช็อตสุดท้ายที่พัตต์ไม่ลง ทำให้โอกาสในการเป็นคนไทยคนแรกที่จะชนะ LPGA หลุดลอยไปทันที จากนั้นไม่นานนัก เธอวิ่งเล่นกับพี่สาวในสนามกอล์ฟแล้วลื่นล้มจนไหล่หลุด ต้องผ่าตัดและหยุดเล่นกอล์ฟไปเกือบปี เมื่อพักรักษาตัวจนหายดีและคืนสนามอีกครั้ง เธอก็ไม่สามารถคืนฟอร์มได้ โดยเฉพาะในปี 2558 ที่ไม่ผ่านการตัดตัว 10 รายการติดกัน ทำให้เครียดหนักถึงขั้นคิดเลิกเล่นกอล์ฟ แต่เมื่อทบทวนตัวเองแล้วก็พบว่ากอล์ฟคือสิ่งที่ทำให้มีความสุข เพราะฉะนั้นต้องหาทางทำให้สำเร็จให้ได้
ครอบครัวคือ "ลมใต้ปีก" ที่คอยให้กำลังใจทั้งโมรียาและเอรียา เป็นแรงผลักดันมาตั้งแต่วันที่ยังไม่มีใครเชื่อว่าพวกเธอจะเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่ประสบความสำเร็จได้
“มุมคิด” เป็นเรื่องสำคัญในการปลุกความเชื่อมั่น แทนที่จะครุ่นคิดแต่เรื่องแย่ๆ เอรียากลับเลือกมองหาแง่งามในชีวิต “ก่อนจะได้แชมป์เมื่อปีที่แล้ว เมแพ้มาเยอะมาก แพ้จนคิดว่าชีวิตนี้จะได้แชมป์บ้างไหม หลายครั้งที่ทำคะแนนนำแต่ก็ยังไม่ได้แชมป์ แต่สุดท้ายสิ่งที่เรียนรู้คือ ‘never give up’ และ ‘trying’ ซึ่งทำให้ตื่นมาใช้ชีวิตอย่างมีค่าทุกวัน เมบอกตัวเองเสมอว่า ทุกวันที่ลงแข่งต้องมีอะไรที่ภูมิใจในตัวเองไม่ใช่สกอร์ที่ตีได้ดีหรือแมทช์ที่ชนะ แต่คือการที่แพ้แล้วสามารถดีใจกับคนที่ชนะ และเมก็ต้องพยายามต่อไป”
เบทาโกร หนึ่งในสปอนเซอร์ของเอรียา โดยเบทาโกรเริ่มสนับสนุนเอรียาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2558
 

หนุนเยาวชนเดินตามฝัน

แม้กอล์ฟจะเป็นชีวิตของเอรียาอย่างแยกไม่ออกแต่โปรกอล์ฟสาวก็ยังอยากเรียนรู้โลกใบอื่นนอกเหนือจากที่เธอรู้จัก หนึ่งในนั้นคือความคิดในการสร้างมูลนิธิ ซึ่งเป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่งที่ทำให้เอรียายังคงเล่นกอล์ฟ เพราะในมุมมองของเอรียา การทำอะไรสักอย่างให้คนอื่นมาช่วยเหลือโดยที่ไม่มีชื่อเสียง อาจยากกว่าการมีชื่อเสียงและเอาชื่อเสียงนั้นไปช่วยเหลือคนอื่น รูปแบบมูลนิธิในฝันของเอรียา คือ การสนับสนุนให้เยาวชนได้ค้นพบศักยภาพที่มีในตัวไม่ว่าจะด้านใดก็ตามและเดินตามความฝันนั้นอย่างมีความสุข
 
View this post on Instagram
 

A post shared by Forbes Thailand Magazine (@forbesthailand) on

...waiting for Gist...
“เมวางแผนว่าจะรีไทร์เร็วมาก แต่ก็กลัวชีวิตหลังเลิกเล่นกอล์ฟว่าจะไม่มีความสุข เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาที่ competitive และเป็นเป้าหมายในชีวิตมาตลอด วันหนึ่งถ้าชีวิตไม่มีเป้าหมายแล้วจะมีความสุขได้อย่างไร แต่นั่นคือความคิดตอนเด็กๆ เพราะตอนนี้รู้แล้วว่าจะทำอะไร ก็ไปสนับสนุนให้เด็กๆ ได้ค้นพบว่าตัวเองต้องการอะไร เส้นทางของเอรียา นักกอล์ฟอาชีพหญิงสายเลือดไทยรายนี้ยังคงยาวไกล ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงโด่งดังที่ได้รับ แต่เพราะ “ความสุข” คือเหตุผลหลักที่ทำให้เธอยังคงเดินบนถนนสายนี้อย่างมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน เรื่อง: สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์ ภาพ: เบทาโกร SCG และ AFP
คลิกเพื่ออ่าน "เอรียา จุฑานุกาล พลังมุ่งมั่นที่ผลักดันสู่ "มือหนึ่ง" โลก" ฉบับเต็มได้ในรูปแบบ e-Magazine