เชาว์เลิศ ลีลาศวัฒนกุล จุดพลังไฟ “ลัคกี้เฟลม” - Forbes Thailand

เชาว์เลิศ ลีลาศวัฒนกุล จุดพลังไฟ “ลัคกี้เฟลม”

เตาแก๊สสัญชาติไทยแบรนด์แรกที่กล้าก้าวออกจากกรอบ แจ้งเกิดผ่านสื่อสร้างชื่อยืนหยัดมากกว่า 4 ทศวรรษ พร้อมจับมือ “รินไน” พันธมิตรระดับโลกตั้งบริษัทร่วมทุนเติมเต็มดีมานด์พรีเมียมเพิ่มประกายไฟให้ธุรกิจคู่ครัวเรือน

เชื้อเพลิงสำคัญที่ช่วยเติมพลังไฟให้พนักงานขายเตาแก๊สตัดสินใจยื่นใบลาออกจากบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายเตาแก๊สต่างประเทศ พร้อมจับมือคู่ชีวิตเริ่มต้นธุรกิจผลิตเตาแก๊สโดยคนไทยเพื่อคนไทย เกิดขึ้นในยุคสมัยที่ประเทศไทยต้องเสียภาษีนำเข้าเตาแก๊สจากอเมริกาและยุโรปสูงถึง 68% เพื่อให้ได้เตาแก๊สราคาแพงที่ไม่สอดคล้องกับการปรุงอาหารของคนไทย “เดิมคุณพ่อเป็นเซลล์ขายเตาแก๊สช่วงที่ไทยยังไม่มีเตาแก๊สคุณภาพดีในราคาเหมาะสม ถ้าไม่ถูกก็แพงไปเลย เพราะต้องนำเข้าท่านเห็นช่องทางตรงนี้จึงเปิดโรงงานผลิตเตาแก๊สคุณภาพดีเมื่อ 44 ปีที่แล้ว โดยเจ้านายเก่าช่วยสนับสนุนในช่วงแรกทั้งเงินลงทุนและ know-how จนช่วงหลังเราได้ know-how จากไต้หวันและญี่ปุ่น ก่อนจะสร้างแบรนด์ลัคกี้เฟลมประมาณ 35 ปีที่แล้ว” เชาว์เลิศ ลีลาศวัฒนกุล กรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ลัคกี้เฟลม จำกัด บุตรชายคนเดียวของไชยยงค์และอมรรัตน์เริ่มต้นเล่าถึงช่วงเริ่มต้นธุรกิจของครอบครัว จากการทำธุรกิจในยุคแรกที่มุ่งพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างการยอมรับและเพิ่มรายได้ให้มากที่สุด ไชยยงค์และอมรรัตน์เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยการใช้สื่อภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์และทำการตลาดตอกย้ำคุณภาพที่แตกต่างของลัคกี้เฟลม ภายใต้สโลแกน “กดแล้วบิด ติดง่ายปลอดภัย” และใช้ตราสัญลักษณ์ตะเกียงในวิชาวิทยาศาสตร์ พร้อมเพิ่มช่องทางการขายโดยส่งจดหมายแนะนำสินค้าให้กับร้านค้าแก๊สทั่วประเทศจากข้อมูลในสมุดหน้าเหลือง “บริษัทเริ่มจากตึกแถวห้องเดียวเป็น 2 ห้องขึ้นเป็น 4 ห้องและซื้อโรงงานนี้ในปีที่ผมเกิด อายุผมแทบจะเท่าโรงงานผมคลุกคลีกับที่นี่ โดยเข้ามาช่วยทำงานในไลน์แพ็กของตั้งแต่ปิดเทอมชั้น ป.5 โตขึ้นหน่อยก็ช่วยจัดของ เช็กความถูกต้องของสินค้า และเริ่มหัดเขียนแบบ ผมตั้งใจกลับมาทำธุรกิจครอบครัวเต็มตัว เพราะเป็นลูกคนเดียวและผูกพันกับที่นี่ตั้งแต่เด็ก ผมรักที่นี่และอยากทำให้เติบโตมากที่สุด” ปัจจุบันความสำเร็จของลัคกี้เฟลมไม่จำกัดเฉพาะการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เตาแก๊ส แต่ยังขยายไปยังอุปกรณ์ภายในครัวเรือนอื่นๆ ได้แก่ เครื่องปรับความดันก๊าซ เครื่องดูดควันเตาอบแก๊ส หม้อหุงข้าวแก๊ส เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า วาล์วแก๊สปืนจุดแก๊ส และเครื่องใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ด้วยคุณภาพมาตรฐานของสินค้า และความเข้าใจ ความจริงใจ รวมถึงการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าที่เปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน ทำให้เตาแก๊สลัคกี้เฟลมสามารถยืนหยัดเป็นเวลานานกว่า 44 ปี

ตอบโจทย์ครัวไทยไฟแรง

ในฐานะทายาทธุรกิจที่เติบโตพร้อมกับกิจการของครอบครัวเชาว์เลิศมุ่งมั่นสานต่อความเป็นผู้นำในตลาดให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง ด้วยการเลือกศึกษาด้านวิศวกรรมเครื่องกล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานกับบริษัทระดับโลกในแผนกออกแบบรถยนต์ของกลุ่มบริษัทอีซูซุประมาณ 2 ปี ก่อนจะศึกษาต่อปริญญาโท Engineering Business Management จาก Warwick University สหราชอาณาจักรและกลับมาเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่งานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) กระบวนการผลิตในโรงงาน คลังจัดซื้อ-จัดส่งและฝ่ายขาย “ผมเข้ามาที่นี่ปีนี้ปีที่ 7 ผมมองธุรกิจครอบครัวของเราว่าสร้างมาจากรากฐานที่แข็งแรง โดยยึดเรื่องคุณภาพเป็นหลัก QCDS ได้แก่ Quality, Cost, Delivery และ Service พนักงานทุกคนต้องผ่านการอบรมว่า ของที่ส่งออกไปต้องมีคุณภาพและปลอดภัยให้เหมือนกับคนที่นำไปใช้เป็นครอบครัวของคุณเพราะเราทำเตาแก๊ส ผิดพลาดไม่ได้ เราต้องทำธุรกิจโดยมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคต้องการให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี ปลอดภัย ในราคาเหมาะสม” จากความมุ่งมั่นด้านคุณภาพและการพัฒนผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มรินไน คอร์ปอเรชั่น (Rinnai Corporation) ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น สนใจร่วมเป็นพันธมิตรทางการค้าโดยก่อตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท รินไน (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาทในเดือนพฤษภาคม 2533 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ เตาแก๊สตั้งโต๊ะ ทำน้ำอุ่นไฟฟ้า เครื่องทำน้ำร้อนแก๊ส เป็นต้น “27 ปีแล้วที่เราร่วมงานกับรินไน เราถือหุ้น 51% ผลิตสินค้ารินไนส่งออกทั่วโลก เพราะเราเล็งเห็นโอกาสการเติบโตไปด้วยกัน จากผลิตภัณฑ์ของรินไนที่มีความหลากหลายและการเป็นแบรนด์อันดับ 1 ทั้งส่วนของครัวและน้ำร้อน ถ้าเปรียบเทียบ เราเป็น local brand เขาเป็นแบรนด์ระดับโลก ระบบการบริหารงานเทคโนโลยี know-how และวิศวกรเป็นญี่ปุ่นทั้งหมด” เชาว์เลิศกล่าวถึงภาคต่อของลัคกี้เฟลมในรุ่น 2 ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและความเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ปัจจุบันมากขึ้น ด้วยการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การสร้างการเติบโตในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย โดยแต่ละประเทศเต็มไปด้วยความท้าทายที่แตกต่างกัน เช่นเมียนมา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ แต่การเข้าถึงแก๊สยังจำกัดเฉพาะระดับบน และเวียดนามที่มีประชากรจำนวนมากกว่า 90 ล้านคน โดยส่วนใหญ่ยังใช้งานเตาแก๊สหัวเตาเล็ก นอกจากนี้ เชาว์เลิศยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ในต่างประเทศ เช่น ดูไบ แอฟริกาใต้ บังกลาเทศ และฟิลิปปินส์ “รินไนรายได้มากกว่า เพราะผลิตภัณฑ์ค่อนข้างหลากหลาย และมีงาน OEM รวมถึงรายได้จากการส่งออก 40% ทั่วโลก เขามีทีมงานของเขา เราเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายวิธีการบริหาร การตลาด การขายและการวาง positioning ต่างกัน รวมถึงเป้าหมายแยกกันชัดเจน เขามีธุรกิจมาก ทำให้กระจายความเสี่ยงยอดขายได้ดี เราเน้นเตาแก๊สเป็นหลัก” ทายาทวัย 35 ปีปิดท้ายถึงเป้าหมายที่วางไว้ภายใต้สโลแกน “ลัคกี้เฟลม จุดประกายความสุขทุกครัวเรือน” ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประโยชน์และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท พร้อมสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นผ่านนวัตกรรม การเติบโตของธุรกิจและรายได้ที่เพิ่มขึ้น “ในอนาคตเราตั้งใจให้ลัคกี้เฟลมมีทุกอย่างในครัว ยกเว้นอุปกรณ์เครื่องครัว กระทะจาน ชาม เรามั่นใจว่า เรามีความสามารถพัฒนาได้ เพียงแต่ต้องการให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์จริง ไม่ใช่แค่ทำตามคนอื่น” ภาพ: กิตติเดช เจริญพร
คลิกอ่านฉบับเต็ม "เชาว์เลิศ ลีลาศวัฒนกุล จุดพลังไฟ “ลัคกี้เฟลม”" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ พฤศจิกายน 2561 ในรูปแบบ e-Magazine