พอแค่นี้ดีกว่า! The Attraction เปิดโพล คนไทยมองนโยบาย “เล่นสงกรานต์ 21 วัน” ของรัฐบาลเป็นไปไม่ได้ - Forbes Thailand

พอแค่นี้ดีกว่า! The Attraction เปิดโพล คนไทยมองนโยบาย “เล่นสงกรานต์ 21 วัน” ของรัฐบาลเป็นไปไม่ได้

FORBES THAILAND / ADMIN
12 Apr 2024 | 06:00 PM
READ 1295

The Attraction เปิดโพลต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ คนไทยมองนโยบายผลักดัน “เทศกาล Water Fest เล่นสงกรานต์ 21 วัน” ของรัฐบาลเป็นแนวคิดที่ดีแต่ไม่เห็นความเป็นไปได้ และส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจในนโยบาย แนะอย่าฝืนไปต่อควรพอแค่นี้ ชี้สงกรานต์ประเทศไทยดังไกลระดับโลกอยู่แล้ว


​    The Attraction ผู้ผลิตคอนเทนต์ เพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ได้จัดทำ แบบสำรวจความคิดเห็นถามความเห็น “คนไทยคิดอย่างไรกับเทศกาลสงกรานต์ Water Festival ในปีนี้ กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ติดตามเพจและประชาชนทั่วไปในโลกออนไลน์ โดยคาดหวังว่าข้อมูลและสถิติที่ได้จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและองค์กรต่างๆ

    จากผลสำรวจพบว่าประชาชนส่วนใหญ่มองว่าแนวคิด Water Fest เล่นสงกรานต์ 21 วัน เป็นแนวคิดที่ดีแต่ยังมองไม่เห็นความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ 21.9% อันดับที่ 2 ยังไม่เข้าใจ งงนโยบาย 20.9% และอันดับที่ 3 ระยะเวลานานไป ถ้ารวมวันไหลก็ครบเดือนพอดี 16.4%



    เมื่อลองให้คะแนนงานสงกรานต์ Water Fest 21 วัน ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ 29.6% ให้ 0 คะแนน ฝากบอกรัฐบาลว่าพอแค่นี้ ขณะที่ 23.2% ให้ 5 คะแนน และมีเพียง 7.4% ให้ 10 คะแนน นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามกับผู้ทำแบบสำรวจว่างานสงกรานต์ไทยไปถึงระดับโลกแล้วหรือยัง ซึ่งส่วนใหญ่หรือ 33.7% มองว่า ปกติสงกรานต์บ้านเราก็มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่แล้วนะ

    ในส่วนของคู่คนดังที่มีพลังดึงดูดอยากให้ช่วยโปรโมตงานสงกรานต์ในปีนี้ อันดับ 1 คือพี่จอง-คัลแลน ส่วนอันดับ 2 คือพีพี-บิวกิ้น และอันดับ 3 คือชาลี-กามิน นอกจากนี้ยังมีการโหวตในหัวข้อ ถ้าใครมางานสงกรานต์จะถือว่าการจัด Water Festival ประสบความสำเร็จระดับโลกแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าอันดับ 1 ที่ได้รับผลโหวตถึง 71.1% คือ ลิซ่า BLACKPINK นั่นเอง


    ด้านสถานที่และความเป็นไทยที่อยากแนะนำให้ชาวต่างชาติไปเล่นสงกรานต์ ครองแชมป์อันดับ 1 คือ ถนนข้าวสาร 63.5% โดยในปีนี้มีการจัดงานงานสงกรานต์ถนนข้าวสาร Khao San World Water Festival UNESCO 2024 ตั้งแต่วันที่ 12-15 เมษายน ส่วนอันดับ 2 คือถนนสีลม และอันดับ 3 คือไอคอนสยาม แลนด์มาร์กสุดยิ่งใหญ่ฝั่งธนบุรี

    สำหรับความเป็นไทยที่อยากแนะนำให้ชาวต่างชาติรู้จักในวันสงกรานต์มากที่สุด อันดับ 1 คือการสรงน้ำพระ อันเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาที่อยู่คู่ชาวไทยมายาวนาน ส่วนอันดับ 2 คือการรดน้ำดำหัว อีกหนึ่งประเพณีเก่าแก่แสดงถึงความรักความผูกพันในครอบครัว โดยการรดน้ำดำหัวยังเป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่หรือ 85.6% อยากให้ดำรงไว้สืบไปในวันสงกรานต์อีกด้วย


    นอกจากนี้กิจกรรมที่คนส่วนใหญ่ตั้งใจเข้าร่วมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อันดับ 1 ก็คือการรดน้ำดำหัวเช่นกัน, อันดับ 2 คือเข้าวัดทำบุญต้อนรับปีใหม่, อันดับ 3 คือนอน, อันดับ 4 คือดูหนัง/ซีรีส์ยิงยาวรวดเดียว และอันดับ 5 คือตั้งวงดื่ม

    และในการสำรวจว่า เมื่อพูดถึงสงกรานต์จะนึกถึงอะไรเป็นอันดับแรกๆ อันดับที่ 1 คือเปียก 50.5%, อันดับที่ 2 คือ 7 วันอันตราย 45.6%, อันดับที่ 3 คือรถติด 42.6%, อันดับที่ 4 คือครอบครัว 37.3% และอันดับที่ 5 คือเมา 25%

    อีกประเด็นที่น่าสนใจคือใช่ว่าทุกคนจะอยากเล่นน้ำในวันสงกรานต์ ซึ่งปัจจัยอันดับ 1 คือแดดร้อนที่เป็นตัวเลขมากถึง 74.5%, อันดับ 2 คือกลัวคนตีกัน และอันดับ 3 คือขี้เกียจ


    เมื่อถามถึงการใช้จ่ายเงินไปกับงานเทศกาลสงกรานต์อันดับที่ 1 คือประมาณ 1,000 - 3,000 บาท ถึง 42.2 %, อันดับที่ 2 คือ หลักสิบหลักร้อย 18.6% และอันดับที่ 3 คือ 3,001 - 5,000 บาท 16.7% โดยส่วนใหญ่ใช้เงินกับค่าอาหาร กับแกล้ม หมูกระทะ ตามด้วยค่าน้ำมัน/ค่าเดินทาง และการทำบุญ ตามลำดับ

    ประเด็นสุดท้ายคือ เมื่อมีเทศกาล ก็ย่อมมีการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก ก่อให้เกิดความกังวลเรื่องการดูแลความปลอดภัย นำมาสู่คำถามว่า “เทศกาลสงกรานต์เสี่ยงต่อการคุกคามทางเพศหรือไม่ โดยผลสำรวจส่วนใหญ่เห็นว่า เสี่ยงมาก ถึง 57.8%


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : สงกรานต์ปี 2567 คึกคักสุดในรอบ 5 ปี คาดเงินสะพัดจากการท่องเที่ยว 1.28 แสนล้านบาท

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine