The 1 Insight เผย ยอดใช้จ่ายสงกรานต์ปี 67 โตต่อเนื่อง หลังปี 66 เงินสะพัดจากนักท่องเที่ยว 200% - Forbes Thailand

The 1 Insight เผย ยอดใช้จ่ายสงกรานต์ปี 67 โตต่อเนื่อง หลังปี 66 เงินสะพัดจากนักท่องเที่ยว 200%

The 1 Insight ร่วมกับ CRC VoiceShare เผย พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงสงกรานต์ปี 2566 โตสูงถึง 200% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า พร้อมคาดการ์ช่วงเทศกาลปี 2567 เศรษฐกิจภาพรวมยังคงคึกคักโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ดันยอดการใช้จ่ายเติบโต 2 เท่าตัว 


    The 1 Insight ร่วมกับ CRC VoiceShare เผยเทรนด์ผู้บริโภคช่วงเทศกาลสงกรานต์ เปิดลิสต์สินค้าคลายร้อนที่มียอดขายเติบโตโดดเด่นในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยนี้ ชี้เศรษฐกิจภาพรวมคึกคักโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ดันยอดการใช้จ่ายเติบโต 2 เท่าตัว สูงสุดใน 5 จังหวัดหัวเมืองสำคัญ ได้แก่ ภูเก็ต ระยอง อุดรธานี จันทบุรี และชลบุรี เนื่องจากพฤติกรรมชาวไทยกว่า 60% แห่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ-กลับภูมิลำเนาตามธรรมเนียมช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ของไทย วางแผนใช้จ่ายโดยประมาณ 9,000-18,000 บาทต่อคน พร้อมทั้งเผยตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยชาวจีนกลับมาขึ้นแท่นอันดับ 1 แซงหน้ามาเลเซีย

    ทั้งนี้ ข้อมูลของ The 1 Insight ยังเผยด้วยว่า สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นในช่วงวันที่ 1-15 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตเด่นชัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกๆ ปี ได้แก่ 1. กระเป๋ากันน้ำ +260% 2. พัดลม +250% 3. เครื่องปรับอากาศ +230% 4. เสื้อลายดอก +110% 5. น้ำแข็ง +70% 6. ไอศกรีม +60% 7. แป้งทาตัว +50% 8. ครีมกันแดด +40% 9. ยาดม +30% 10. น้ำยาเปลี่ยนสีผม +20% 

    ทางด้าน CRC VoiceShare เผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการเดินทางของผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์พบว่า คนไทยกว่า 60% มีแผนที่จะเดินทางในประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนา โดยนิยมไปเที่ยวทะเลเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งจังหวัดยอดนิยมได้แก่ ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต โดยส่วนใหญ่วางแผนเดินทางช่วงก่อนสงกรานต์จนถึงช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน และมักเดินทางในช่วงสงกรานต์เป็นประจำทุกปี ในส่วนของค่าใช้จ่าย โดยรวมอยู่ระหว่างช่วง 9,000-18,000 บาท แบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1. ค่าเดินทาง 5,000-10,000 บาท ส่วนใหญ่ 72% เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 15% เดินทางโดยขนส่งสาธารณะ และ 13% เดินทางโดยเครื่องบิน 2. ค่าที่พัก 1,000-3,000 บาท 3. ค่ากิน-เที่ยว 3,000-5,000 บาท ส่วนคนไทยอีก 30% เลือกที่จะพักผ่อนอยู่กับบ้าน ใช้เวลากับครอบครัว หรือกินข้าวเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า เยี่ยมเยียนและรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ในจังหวัดที่อยู่อาศัย ขณะที่ 10% ที่เหลือจะเลือกวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยกว่าครึ่งตั้งเป้าไปประเทศญี่ปุ่น รองลงมาคือ จีน ไต้หวัน และเวียดนาม



    อย่างไรก็ตาม จากฐานข้อมูล The 1 ยังบ่งชี้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวในปี 2566 ว่า โดยภาพรวมมีการเติบโตสูงถึง 200% เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องในปี 2567 ซึ่ง 3 ประเทศที่ใช้จ่ายสูงสุดได้แก่ จีน มาเลเซีย และรัสเซีย โดยการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 10 เท่า ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีแนวโน้มเติบโตแตะระดับก่อนเหตุการณ์โควิด-19 เนื่องด้วยนโยบายวีซ่าฟรี ไทย-จีน ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการท่องเที่ยว

    นอกจากนี้ CRC VoiceShare ยังได้เผยผลสำรวจความเห็นผู้บริโภคในหัวข้อ “เมื่อนึกถึงสงกรานต์ คนแต่ละช่วงวัยนึกถึงอะไร” โดยกลุ่มคน Gen Z นึกถึง “การเล่นน้ำ” ด้วยความเป็นวัยรักสนุกที่เพิ่งพ้นผ่านช่วงวัยรุ่นมาไม่นาน Gen Y นึกถึง “วันหยุดเทศกาล” สะท้อนความต้องการ Work-Life Balance เพื่อผ่อนคลายจากการทำงาน Gen X นึกถึง “วันขึ้นปีใหม่” เรียกได้ว่าเป็นโอกาสรวมญาติครั้งสำคัญแห่งปีสำหรับช่วงวัยที่ให้ความสำคัญกับการสร้างครอบครัวอบอุ่น ส่วน Baby Boomers นึกถึง “การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่” สะท้อนการให้คุณค่าของผู้สูงวัยต่อธรรมเนียมปฏิบัติของเทศกาลสงกรานต์




เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : RS Mall รีแบรนด์เป็น 'RS Mall X' รุตลาดคนรุ่นใหม่ คาดสร้างรายได้ 400 ล้าน ภายในปี 67

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine