กระทิงแดง อัดงบ 4 พันล้าน ตั้งเป้าดันยอดขายตลาดเวียดนาม โตเท่าตัวเป็น 2 หมื่นล้านในอีก 3 ปีข้างหน้า - Forbes Thailand

กระทิงแดง อัดงบ 4 พันล้าน ตั้งเป้าดันยอดขายตลาดเวียดนาม โตเท่าตัวเป็น 2 หมื่นล้านในอีก 3 ปีข้างหน้า

สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มกระทิงแดง (เรดบูล) เปิดเผยระหว่างพาคณะผู้สื่อข่าวจากไทยไปเยี่ยมชมสำนักงานในต่างประเทศแห่งแรกที่ TCP ถือหุ้น 100% ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามว่า แผนธุรกิจ 3 ปี (2562-64) ของ TCP ในเวียดนามจะมีการลงทุนเพิ่ม 4 พันล้านบาทเพื่อเพิ่มศักยภาพให้บริษัท TCPVN จำกัดในด้านการวิจัยตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด การขายและช่องทางการจัดจำหน่าย และแม้ว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในเวียดนามจะมีการแข่งขันสูงมาก ด้วยคู่แข่งจากนานาชาติและแบรนด์ใหม่ที่มีการเปิดตัวทุกไตรมาส TCP ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในเวียดนามอีกเท่าตัวใน 3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดของทุกแบรนด์จะเพิ่มมากกว่า 50% และมีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้อย 1 แบรนด์ TCP อ้างว่าปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในเวียดนาม โดยเรดบูลมีแชร์ประมาณ 37% นำหน้าอันดับสอง Sting ของเป๊ปซี่ ที่มีส่วนแบ่งประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ตันๆ นอกจากนี้ TCP ยังได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับตลาดเวียดนามโดยเฉพาะคือ "Warrior" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังชนิดอัดแก๊ส เช่นเดียวกับ Sting ซึ่งสามารถขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 5% ในปัจจุบันทั้งๆที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2558     สำหรับยอดขายตลาดเวียดนามกว่าหมื่นล้านบาท นับเป็นมูลค่าถึง 1ใน 3 ของรายได้รวมกลุ่ม TCP ทั้งหมดซึ่งคาดว่าจะปิดที่ประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านในปีนี้ ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเวียดนามมีการเติบโต 6% และมีมูลค่าแซงตลาดไทยไปแล้วด้วยมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท ตลาดไทยมีมูลค่ารวม 23,000 ล้านบาทและไม่มีการเติบโต การทุ่มบุกตลาดเวียดนามเป็นส่วนสำคัญของแผนธุรกิจ 5 ปีที่สราวุธ ทายาทของ "เฉลียว อยู่วิทยา" ผู้ถือกำเนิดแบรนด์กระทิงแดงที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ประกาศเมื่อปี 2560 ที่มีเป้าการเพิ่มยอดขายโต 3 เท่าเป็น 1 แสนล้านบาทภายในปี 2564 ในขณะที่ TCP กำลังหาพันธมิตรรายใหม่ในจีน หลังจากหมดสัญญา 20 ปีกับคู่ค้ารายเดิม โดยเวียดนามได้ขึ้นเป็นตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในเอเชีย รองจากจีน