Promotion Optimization อาวุธใหม่ของกลุ่มค้าปลีกไทย - Forbes Thailand

Promotion Optimization อาวุธใหม่ของกลุ่มค้าปลีกไทย

FORBES THAILAND / ADMIN
07 Dec 2023 | 06:46 PM
READ 3359

เนื้อหาที่น่าสนใจจากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ยอดขายของธุรกิจค้าปลีกในปี 2566 จะขยายตัวต่อเนื่องแต่ยังอยู่บนความท้าทายรอบด้าน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าตลาดอาจขยายตัวราว 2.8-3.6% จากปี 2565


    ทั้งนี้มีปัจจัยสำคัญมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การที่นักท่องเที่ยวกลับมาเยือนไทยมากขึ้นส่งผลราคาสินค้าบางรายการที่ยังคงปรับสูงขึ้นตามภาวะต้นทุน รวมถึงมาตรการช้อปดีมีคืน และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายต่างๆ ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาจะส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนด้วยเม็ดเงินที่สะพัดมากขึ้น 

    อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจค้าปลีก นอกเหนือจากข้อจำกัดทางเศรษฐกิจแล้ว พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปก็ถือว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายของธุรกิจค้าปลีกอีกด้วย ทั้งนี้ธุรกิจค้าปลีกจึงจำเป็นต้องปรับตัวและมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่ผ่านมา

    ดังนั้น การจัดโปรโมชั่นถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดต่อธุรกิจค้าปลีกในภูมิภาคเอเชียที่จำเป็นต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่มักมองหาสินค้าราคาที่ดีที่สุดควบคู่กับคุณภาพ ผู้บริโภคบางกลุ่มยังมีความอ่อนไหวต่อราคาสินค้าตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกหลายแห่งต่างแข่งขันกันจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง และตั้งราคาให้ต่ำเพื่อดึงดูดผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสในการขาย


โปรโมชั่นที่พึงระวัง  

    รีเล็กซ์ โซลูชันส์ มองว่าถึงแม้โปรโมชั่นจะช่วยสร้างยอดขายได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกโปรโมชั่นจะมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสร้างกำไรแก่ธุรกิจค้าปลีก โดยงานวิจัยจากรีเล็กซ์ โซลูชันส์พบว่า 1 ใน 3 ของโปรโมชั่นไม่สามารถเพิ่มยอดขายหรือสร้างผลกำไรได้แต่อย่างใด 

    นอกเหนือจากนี้ การจัดโปรโมชั่นที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจะส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกสูญเสียเงิน เวลา และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างซัพพลายเออร์อีกด้วย

    อีกหนึ่งในข้อควรระวังคือ การจัดโปรโมชั่นถี่เกินไป เมื่อสินค้าถูกจัดโปรโมชั่นที่มีประสิทธิภาพต่ำบ่อยครั้ง ไม่เพียงแต่ทำให้คุณค่าและภาพลักษณ์ของสินค้าลดลง แต่ยังกระทบต่อการสร้างกำไรอีกด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดว่าบริษัทค้าปลีกจัดโปรโมชั่นถี่เกินไปหรือไม่ สามารถดูได้จากสถิติที่แม่นยำจากเทคโนโลยี

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนโปรโมชั่นต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและการไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยชี้วัดประสิทธิผลของโปรโมชั่นที่ผ่านมาได้ก็เป็นจุดอ่อนที่พึงระวัง การพึ่งพากระบวนการแบบใช้สเปรดชีตแบบแมนนวลทำให้เกิดความล่าช้าและข้อผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง และยากต่อการปรับปรุงแผนการในอนาคต  

    ทั้งนี้แพลตฟอร์มสำหรับซัพพลายเชนแบบครบวงจรและการวางแผนค้าปลีกของรีเล็กซ์สามารถคาดการณ์จากผลของโปรโมชั่นที่ผ่านมาได้ว่าโปรโมชั่นใดที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงโปรโมชั่นใดบ้างที่ควรใช้ ยกเลิก และปรับเปลี่ยน หลังจากนั้นแพลตฟอร์มของรีเล็กซ์จะกำหนดว่าราคา กลยุทธ์ และคุณสมบัติใดสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจในที่สุด

    เนื่องจากเป้าหมายหลักของการจัดโปรโมชั่นคือ การเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า กระตุ้นความต้องการและการขาย โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยหลักในการสร้างผลกำไรและความสามารถในการแข่งขัน โดยรีเล็กซ์สามารถเติมเต็มเป้าหมายนี้ด้วยเทคโนโลยีเพื่อวางแผน ประเมิน และจัดทำแคมเปญทั้งที่หน้าร้านและช่องทางออนไลน์ได้โดยอัตโนมัติ โดยมีการระบุสินค้า โปรโมชั่น และช่วงเวลาที่ชัดเจน 

    นอกจากนี้ เทคโนโลยีของรีเล็กซ์ยังสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำโดยการทดสอบสถานการณ์โปรโมชั่นต่างๆ ก่อนการเริ่มต้นแคมเปญจริงในแซนบ็อก (sandboxed environment) เพื่อให้แน่ใจว่าทุกโปรโมชั่นมีประสิทธิภาพดีพอที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและยังคงสร้างกำไร

    ตัวอย่างกรณีศึกษา Coop Estonia ผู้นำค้าปลีกในประเทศเอสโตเนียที่มีสาขามากกว่า 330 สาขา และมีการจัดโปรโมชั่นมากกว่า 2,000 รายการต่อเดือน นับเป็นหนึ่งในลูกค้าที่ประสบความสําเร็จในการใช้เลือกใช้เทคโนโลยีโปรโมชั่นโซลูชัน (promotion solution) ของรีเล็กซ์ ซึ่งผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อของ Coop Estonia กล่าวว่า “เราได้เห็นผลลัพธ์จากการใช้เทคโนโลยีคือ ยอดขายสูงขึ้น กำไรสูงขึ้น และเป็นแคมเปญที่ผู้บริโภคมีส่วนร่วมมากขึ้น RELEX มีทีมงานที่คอยให้ความช่วยเหลือและเข้าใจวิธีคิดของ Coop เป็นอย่างดี”


โซลูชันเพื่อส่งเสริมการขาย

    รีเล็กซ์ โซลูชันส์ ช่วยให้ผู้ค้าปลีกและแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคสามารถเดินหน้าสร้างผลกำไรผ่านช่องทางการจำหน่ายและการกระจายสินค้าทั้งหมดโดยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าให้สูงสุดและลดต้นทุนดำเนินงานให้ต่ำสุด แพลตฟอร์มการวางแผนด้านซัพพลายเชนและระบบค้าปลีกแบบรวมศูนย์ชั้นนำช่วยให้ผู้ค้าปลีกและบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคสามารถปรับเปลี่ยนและปรับปรุงห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ได้ตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่เรื่องความต้องการ สินค้า ซัพพลายเชน และการวางแผนดำเนินงาน

    นอกจากนี้ โซลูชันดังกล่าวยังช่วยให้มีสินค้าพร้อมจำหน่าย เพิ่มยอดขาย ยกระดับความยั่งยืน และให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนที่ดีที่สุด ทั้งในด้านสินค้าคงคลัง พื้นที่ว่าง แรงงาน และความจุ ที่ผ่านมารีเล็กซ์ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น Dollar Tree และ Family Dollar, Coles, สยามแม็คโคร, Pharmacity, Delivery Hero และ Prince Retail และได้ช่วยปรับปรุงการวางแผนด้านซัพพลายเชนและระบบค้าปลีกให้ดียิ่งขึ้น

    การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกยังคงมีต่อเนื่อง และรูปแบบการขายก็มีความหลากหลายมากขึ้น การจัดโปรโมชั่นกลายเป็นสิ่งจำเป็น แต่จะจัดตามรูปแบบเดิมๆ โดยไม่ประเมินผลหรือประเมินผลแบบคร่าวๆ น่าจะไม่เพียงพอสำหรับการแข่งขันของธุรกิจในยุคปัจจุบัน การนำเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้องจะช่วยให้การวางแผนทางการตลาดประสบความสำเร็จและโปรโมชั่นต่างๆ ที่จัดไปสามารถวัดผลและกระตุ้นยอดขายได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่า และแน่นอนยังคงต้องมีกำไรจากโปรโมชั่นที่จัดขึ้นเหล่านั้นด้วย


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : SiteMinder เผยมิลเลนเนียลชาวไทยมีโอกาสเที่ยว ตปท.มากสุดปีหน้า ส่วน Gen Z น้อยสุด

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine พิเศษ! ฉบับนี้แถมฟรี Forbes Life