Generative AI กับการใช้งานทางธุรกิจในปัจจุบัน - Forbes Thailand

Generative AI กับการใช้งานทางธุรกิจในปัจจุบัน

FORBES THAILAND / ADMIN
02 Apr 2024 | 09:30 AM
READ 939

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วได้สร้างโอกาสใหม่ให้กับนวัตกรรมทางธุรกิจ ความก้าวหน้าของพลังการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และอัลกอริทึมต่างๆ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การพัฒนาระบบ AI รอบรู้ได้ลึกมากขึ้น


    การนำซอฟต์แวร์ที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพมาใช้ เช่นคอนเทนเนอร์ และการผสานการทำงานร่วมกันจะช่วยให้เข้าถึงและใช้ความสามารถของแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) ได้รุดหน้ามากขึ้น

    ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น ปัจจุบันนักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถสร้าง ใช้งาน และบริหารจัดการเวิร์กโหลด AI/ML ที่ปรับขนาดและประสิทธิภาพได้ตามต้องการผ่านโซลูชันที่ใช้กันทั่วไป เช่น Red Hat OpenShift Data Science และ NVIDIA AI-ready Enterprise Platform ได้

    ในบรรดา AI แขนงต่างๆ นั้น Al แบบรู้สร้างหรือ Generative AI เป็นตัวเร่งให้ธุรกิจต่างๆ สร้าง ทำซ้ำ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับโซลูชัน และจัดการปัญหาต่างๆ ที่ซับซ้อนได้เร็วขึ้น


Generative AI คืออะไร

    Generative AI เป็นแขนงหนึ่งของ AI ที่ช่วยให้แมชชีนต่างๆ สร้างคอนเทนต์ต้นฉบับ เช่น รูปภาพ ข้อความ และเพลง ซึ่งแตกต่างจากระบบ AI แบบเดิมที่ต้องพึ่งพากฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหรือรูปแบบข้อมูลที่ชัดเจน แต่ Generative AI ใช้ประโยชน์จากโครงข่ายประสาทเทียมที่ซับซ้อนเพื่อเรียนรู้จากชุดข้อมูลจำนวนมากและสร้างเอาต์พุตด้วยตนเอง


การใช้ Generative AI ในเชิงธุรกิจ

    ธุรกิจสามารถใช้ Generative AI เพื่อเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ของคนและคิดค้นสิ่งใหม่ได้เร็วขึ้น ผ่านการขับเคลื่อนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน สร้างแคมเปญทางการตลาดที่น่าดึงดูดใจตรวจจับการฉ้อโกง หรือสร้างตัวแทนเสมือนที่สมจริง การมีข้อมูลที่ถูกต้องและใช้แอปพลิเคชันที่เป็น Generative AI จะช่วยให้บริษัทพบโอกาสที่เป็นไปได้มากขึ้นลดความเสี่ยงต่างๆ เพิ่มผลิตผล และทำงานได้อย่างอัตโนมัติ ได้ใช้โซลูชันที่ทันสมัยและประหยัดค่าใช้จ่าย


ประสบการณ์เฉพาะตัวของลูกค้า

    Generative AI มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่มากมายเพื่อช่วยให้ผู้นำธุรกิจเข้าใจความชอบ พฤติกรรม และแนวโน้มต่างๆ เพื่อให้สามารถสร้างคำแนะนำสินค้าและบริการได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างเจาะจงและไดนามิก สามารถโฆษณาตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายและสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้ลูกค้า ซึ่งนับเป็นการส่งเสริมให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและให้ความภักดีในแบรนด์อย่างเหนียวแน่น

    ปกติจะมีการใช้ Generative AI ในการพัฒนาผู้ช่วยเสมือนและแชทบอทต่างๆ ที่สามารถปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า จัดการและให้คำตอบต่อคำถามต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้มีการใช้แอปพลิเคชันธุรกิจเกี่ยวกับผู้ช่วยเสมือนมาระยะหนึ่งแล้ว เช่น Watson Assistant ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2559 และปัจจุบันถูกนำใช้งานในส่วนบริการลูกค้า ฝ่ายการตลาด และฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะเห็นได้ว่าผู้ช่วยเสมือนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบริการลูกค้า ช่วยให้งานที่ต้องทำประจำเป็นอัตโนมัติและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้


การดำเนินงานที่คล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพ

    ธุรกิจสามารถใช้ Generative AI ปรับปรุงการดำเนินงาน ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม ตั้งแต่การทำรายงานโดยอัตโนมัติและการบริหารจัดการซัพพลายเชนให้เหมาะสม ไปจนถึงการคาดการณ์ด้านการบำรุงรักษาและการตรวจจับความผิดปกติต่างๆ
ตัวอย่างเช่น Ansible Lightspeed (technical preview) จะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สร้าง Ansible Playbook Automations ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้ Generative AI กับ IBM Watson Code Assistant การทำงานโดยอัตโนมัติจะช่วยให้พนักงานสามารถให้ความสำคัญกับงานอื่นที่จะสร้างมูลค่าให้บริษัทได้มากกว่า และเป็นการส่งเสริมความสามารถในการผลิตและนวัตกรรมให้กับองค์กร


ยกระดับการตัดสินใจให้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

    Generative AI อาจเป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพสำหรับการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นปัจจัยในการพิจารณา โดยธุรกิจสามารถสร้างสถานการณ์ต่างๆ ไว้เป็นทางเลือก ทดสอบสมมติฐาน และคาดการณ์โดยใช้ข้อมูลในอดีตและจำลองการทำงานขึ้นมา

    ทั้งนี้ Generative AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล กำหนดรูปแบบ และสร้างการคาดการณ์หรือจำลองสถานการณ์ต่างๆ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในกระบวนการตัดสินใจ ทั้งยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า ปรับปรุงการดำเนินงานด้านต่างๆ และสนับสนุนการวางแผนเชิงกลยุทธ์

    ตัวอย่างเช่น Atomiton คาดการณ์ความต้องการใช้พลังงานในโรงงานต่างๆ และชี้แนวทางที่เหมาะสมในการเดินเครื่องจักรที่ใช้พลังงานในพื้นที่การผลิตเพื่อลดค่าใช้จ่าย ความสามารถในการตัดสินใจได้เช่นนี้จะส่งผลให้ผู้นำธุรกิจสามารถสำรวจผลลัพธ์ต่างๆ ประเมินความเสี่ยง และเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้


คงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

    ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจด้านสาธารณสุขและการเงิน Generative AI มีวิธีการรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการสร้างข้อมูลสังเคราะห์ (synthetic data) เพื่อใช้แทนข้อมูลจริง แต่ยังคงรักษาคุณสมบัติทางสถิติไว้เหมือนข้อมูลต้นฉบับ จึงมั่นใจในความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคลได้ วิธีนี้ช่วยให้แชร์ข้อมูลและทำงานร่วมกันได้ พร้อมกับการปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหวง่ายไว้อย่างปลอดภัย


ตรวจจับการฉ้อโกงและความปลอดภัยไซเบอร์

    Generative AI สามารถช่วยระบุและป้องกันกิจกรรมที่เป็นการฉ้อโกงต่างๆ ด้วยการวิเคราะห์จากรูปแบบของข้อมูล ความผิดปกติต่างๆ และภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น และสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบความปลอดภัย ตรวจหาช่องโหว่ต่างๆ และลดความเสี่ยง

    ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองจากพันธมิตรของ Red Hat เช่น Dynatrace, CrowdStrike และอื่นๆ ใช้ประโยชน์จาก AI ด้วยวิธีการที่ต่างกันเพื่อตรวจจับการฉ้อโกงต่างๆ และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการทำงานบนคลาวด์ยังคงปลอดภัย

    Generative AI เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของการใช้งานทางธุรกิจ การใช้ Generative AI จะช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน มอบประสบการณ์เฉพาะ ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ตัดสินใจได้ถูกต้องแม่นยำ และสนับสนุนการสร้างนวัตกรรม

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบนิเวศพันธมิตรด้าน AI/ML ของ Red Hat ได้ที่ www.redhat.com/en/partners/machine-learning-software และเจาะลึกการใช้งานที่ผ่านการรับรองของ Red Hat ได้ที่ Red Hat AI/ML ecosystem catalog


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Peggy Cherng ผู้สร้าง Panda Express นักวิทย์แห่งอาหารจีน

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine